12 เทรนด์ออกแบบ Packaging 2023
‘บรรจุภัณฑ์’ มีส่วนในการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค ควรอัปเดตเทรนด์ออกแบบ Packaging ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายให้แบรนด์
นักการตลาด นักออกแบบ Packaging หรือผู้ประกอบการนั้นรู้ดีว่า ‘บรรจุภัณฑ์’ (Packaging) มีส่วนในการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค ดังนั้นเจ้าของแบรนด์ส่วนใหญ่จึงมักใส่ใจในส่วนของการดีไซน์ออกแบบ Packaging มาก สังเกตได้จากแบรนด์ใหม่ที่ผุดออกมาเป็นดอกเห็ดก็มักจะพูดถึงดีไซน์บรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ตัวเองอยู่ตลอด และพยายามสร้าง Storytelling ในการดีไซน์ให้ดูน่าสนใจขึ้น พร้อมกับศึกษาเทรนด์ออกแบบ Packaging อยู่ตลอดให้ถูกจริตผู้บริโภค
ก่อนจะซื้อสินค้าก็มักจะดูดีไซน์ Packaging ของแบรนด์ก่อนเสมอว่าสวยงามถูกจริตตัวเองไหม และยังทำให้เห็นว่านอกจากคุณภาพสินค้า แบรนด์นี้ยังให้ความสำคัญเรื่องแพ็กเกจจิ้งด้วยที่มีส่วนส่งเสริมให้สินค้านั้นดูหรูหราและน่าเชื่อถือ
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ทำแบรนด์แล้วให้ความสำคัญกับดีไซน์แพ็กเกจจิ้งก็ควรอัปเดตเทรนด์ออกแบบ Packaging ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายให้แบรนด์ ขยันพัฒนา และปรับเปลี่ยนแบรนด์ให้ทันสมัยอยู่เสมอก็แน่นอนว่าส่งผลดีต่อแบรนด์แน่นอน
1. Sustainable Packaging
ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเราเจอกับภัยพิบัติทางธรรมชาติอันเป็นผลจากภาวะโลกร้อนกันหนักหน่วง ประชาชนเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนของโลกมากขึ้นและจะเห็นว่าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็เริ่มหันมาลดการใช้พลาสติกกับบรรจุภัณฑ์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วเลือกใช้ Sustainable Packaging ที่เป็นมิตรกับโลกแทน หรือบางแบรนด์ก็ลดการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนในทุกขั้นตอนการผลิตสินค้าของตัวเอง มีงานวิจัยของ Trivium Packaging บอกว่าผู้บริโภค 74% ไม่เพียงแต่มองหา Sustainable Packaging เท่านั้น แต่ยังเต็มใจจ่ายมากขึ้นด้วย เทรนด์ออกแบบ Packaging 2023 หรือในปีหน้าที่จะถึงนี้จะมาแรงมากในบรรดาผู้ประกอบการอย่างแน่นอน หลายแบรนด์จะเริ่มปรับเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งของตัวเองให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและพยายามจะปรับเปลี่ยนให้ครอบคลุมในทุกผลิตภัณฑ์ของตัวเองด้วย
2. Ecstatic Colours
Ecstatic Colors เป็นการออกแบบที่เน้นสีสันที่สดใสและจัดจ้าน เรียกว่า ‘สีแห่งความสุข’ จะเป็นเทรนด์ออกแบบ Packaging 2023 ที่ช่วยทำให้สินค้าของคุณนั้นโดดเด่นออกมาจากคู่แข่งบนชั้นวางของในซูเปอร์มาเก็ต ยกตัวอย่างเช่น สีนีออน ที่สื่อถึงความขี้เล่น มีความมั่นใจในตัวเองสูงและไม่เกรงกลัวใคร หรือตัวอย่างการดีไซน์บรรจุภัณฑ์ในรูปแบบกระป๋องจาก BenTō ที่เป็นการผสมผสานสีที่สดใสและจัดจ้านอยู่ในด้วยกัน ทั้งสีนีออน ชมพู ม่วงหรือฟ้า บ่งบอกถึงความสนุกสนาน
3. Tactile texture
Tactile Texture คือ การออกแบบ Packaging ที่มีการเล่นกับเนื้อสัมผัส เป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่ช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ได้ดีมาก เช่น ความนูน หรือมีผิวสัมผัสที่ไม่เรียบเนียน หรือการพิมพ์ฟอยล์ แบรนด์ที่ดีไซน์การออกแบบบรรจุภัณฑ์รูปแบบนี้ยังเพิ่มมูลค่าสินค้าของแบรนด์ได้อีกด้วยนะ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเป็นสินค้าที่หรูหราหรือเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ และอีกหนึ่งข้อดีของดีไซน์แบบนี้คือด้วยลูกเล่นนี้จะสร้างความดึงดูดใจและสะดุดตาผู้บริโภคได้มากกว่าแบรนด์ที่ดีไซน์ Packaging ที่เรียบง่ายเป็นเทรนด์ออกแบบ Packaging 2023 ที่น่าสนใจมาก เหมาะกับสินค้าหลายแบบด้วย
4. Typographic scrawl
หรือการดีไซน์ Packaging ที่ใช้ตัวอักษรเป็นการสื่อสารความเป็นตัวตนของแบรนด์ โดยเฉพาะการเล่นกิมมิคตัวอักษรคล้ายลายมือการเขียนที่ให้ความรู้สึกสบาย ๆ ความสนุกสนานและยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นกันเอง เข้าถึงง่ายของแบรนด์ นอกจากนี้การดีไซน์รูปแบบนี้ยังให้ความรู้สึกว่าสินค้าดูโฮมเมดและให้ความรู้สึกติดดินจึงเป็นเทรนด์ออกแบบ Packaging 2023 ที่เหมาะกับสินค้าแบรนด์โฮมเมด
5. Mascot variations
การใช้มาสคอตเข้ามาใส่เป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์บน Packaging ก็สามารถสื่อความเป็นตัวตนแบรนด์และรสชาติได้ จะช่วยเพิ่มลูกเล่นให้ผลิตภัณฑ์ดูมีกิมมิคขึ้น และยังดึงดูดใจผู้บริโภคภายในเสี้ยววินาทีได้เลยล่ะ ซึ่งการใช้ Mascot Variations ยังเหมาะกับแบรนด์ที่มีหลายโปรดักส์ไลน์ แต่ยังคงรักษาความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไว้ได้ด้วยนะ ผ่านการใช้มาสคอตตัวเดียวกันนี้ แต่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้สีหรือการแต่งตัวของมาสคอตที่เปลี่ยนไปตัวโปรดักส์แต่ละไลน์ได้ด้วย แบรนด์ส่วนใหญ่ที่ใช้ดีไซน์การออกแบบนี้มักจะเป็นพวกเครื่องดื่มทั้งหลาย คาดว่ามันจะเป็นยอดนิยมในเทรนด์ออกแบบ Packaging 2023 หลายแบรนด์แน่นอน
6. Illustrated ingredients in punchy palettes
การออกแบบที่สะท้อนถึงความสดใสและสนุกสนานที่สื่อถึงความเป็นเด็ก ดูอ่อนเยาว์ ช่วยดึงความทรงจำในวัยเด็กกลับคืนมาอีกครั้ง และยังสามารถดึงเอาสีที่เป็นสีเดียวกับส่วนผสมมาใช้เพื่อดึงดูดใจผู้บริโภคกลุ่มที่ต้องการรู้ส่วนผสมภายในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ นอกจากนี้ยังสามารถแยกแยะได้อีกว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีรสชาติแบบไหนได้ด้วย เป็นเทรนด์ออกแบบ Packaging 2023 ที่จะช่วยให้ผู้บริโภครับรู้ในเวลาอันรวดเร็วว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีส่วนผสมและรสชาติอย่างไรผ่านดีไซน์บรรจุภัณฑ์
7. Cartoon charm
เสน่ห์ของการ์ตูนจะช่วยสื่อถึงความน่ารักแสะสนุกอยู่เสมอ การใช้ดีไซน์ Packaging แบบการ์ตูนจะทำให้ผู้บริโภคย้อนคิดถึงความเป็นเด็กในตัวเอง แม้ว่าการใช้รูปแบบนี้จะมีความหลากหลาย แต่หัวใจหลักก็คือลายเส้นแบบมินิมัลลิสต์ที่มีความเรียบง่าย ซึ่งจะแสดงว่าเห็นว่าเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงได้ คาดว่าจะเป็นเทรนด์ออกแบบ Packaging 2023 ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ให้ความเป็นคลาสสิกและมินิมอล
8. Wrap-around patterns
การออกแบบ Packaging ที่มีดีไซน์แบบไร้รอยต่อ ใช้เส้นกว้างที่สบายตา กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้บริโภค ทำให้พวกเขารู้สึกอยากหยิบผลิตภัณฑ์ขึ้นมาดู เพราะองค์ประกอบของดีไซน์ไม่ได้จบแค่ด้านหน้าของสินค้าเท่านั้น แต่สามารถดูได้คลอบคลุมทุกด้านของสินค้า โดยเฉพาะเมื่อมันถูกตั้งโชว์อยู่บนชั้นวางสินค้า เหมาะกับผลิตภัณฑ์ในรูปแบบกระป๋องหรือขวดมาก ๆ
9. Product visuals with a creative twist
การใช้ภาพอย่างสร้างสรรค์ ในแบรนด์ที่ออกแบบ Packaging รูปแบบนี้ที่นำเสนอผ่านรูปทรงที่เป็นนามธรรม เรขาคณิตและเรียบง่าย จะสร้างความโดดเด่นให้แบรนด์ได้มากกว่าและจะสามารถดึงดูดใจผู้บริโภคได้เยอะกว่าแบรนด์ทั่วไป เพราะเป็นการสื่อถึงแนวคิดเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ เหมาะกับแบรนด์อาหารหรือขนม
10. Maximalist Designs
ใคร ๆ ก็รู้ว่ามินิมอลนั้นเป็นที่นิยมมาก ๆ ในทุกอุตสาหกรรมทั้งบ้าน แฟชั่นหรือแม้แต่ Packaging แต่ล่าสุดก็มีแบรนด์ที่คิดว่า ‘ยิ่งมากก็ยิ่งดี’ กำลังมา เป็นการดีไซน์ที่ดึงเอาสิ่งที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแบรนด์เข้ามาอยู่ด้วยกัน ดูมีความหรูหรา มีสีสันที่สดใสเพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกเต็มอิ่ม ซึ่งการนำสิ่งที่เชื่อมโยงมารวมกันก็มีทั้งรูปภาพ ฟอนท์ และสี แบรนด์เชื่อว่าสามารถสร้างการจดจำในหมู่ผู้บริโภคได้ดี
11. ’70s vintage
ดีไซน์สไตล์วินเทจยุค 70 นั้นไม่เคยตกยุคเลยไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม โทนสีแห่งความอบอุ่นกำลังจะกลับมา ไม่ว่าจะเป็นการแต่งบ้าน แฟชั่น รวมไปถึงเทรนด์ออกแบบ Packaging 2023 ด้วย โดยการดีไซน์บรรจุภัณฑ์เทรนด์นี้จะเน้นไปทางการใช้สีโทนอุ่น เอิร์ธโทน โดยเฉพาะโทนสีน้ำตาลหรือส้ม ผสมผสานกับฟอนท์แบบ Bubbly ลวดลายหยักหนาทึบ ช่วยกระตุ้นความคุ้นเคยและความเป็นอิสระ รวมไปถึงสุนทรียภาพแห่งยุค 70 นั่นเอง สะท้อนถึงความเงียบสงบ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าสินค้านั้นดูคุ้นเคยและเข้าถึงได้ง่าย
12. Natural, Earthy Colors
นอกจากเทรนด์บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่กำลังมาแล้ว ขั้นกว่าของการรักษ์โลกในปีหน้าคือ แบรนด์เน้นการใช้สีธรรมชาติและสีเอิร์ธโทนด้วย ซึ่งสีเฉดนี้จะได้รับความนิยมมากในหมู่แบรนด์อาหารออร์แกนิก หรือเครื่องสำอางออแกนิก เพื่อสร้างจุดยืนที่ชัดเจนให้กับแบรนด์ แล้วการใช้ดีไซน์ออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบนี้ยังสื่อถึงสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ และความเป็นธรรมชาติ