พิธีมอบรางวัล Asian Print Awards 2024
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567
ณ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
กิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยก่อนที่จะมีพิธีมอบรางวัลนั้น ได้มีการคัดเลือกผลงานที่ส่งเข้าร่วมประกวดจากหลายประเทศในอาเซียน ซึ่งคุณประสิทธิ์ คล่องงูเหลือม อุปนายกฝ่ายวิชาการ สมาคมการพิมพ์ไทย เป็นตัวแทนจากประเทศไทยได้ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน
คุณประสิทธิ์เล่าว่า “ผมเป็นกรรมการตัดสินเฉพาะงาน Asian Print Awards เท่านั้นไม่ได้ตัดสินงาน Packaging Excellence Awards เนื่องจากติดภารกิจต้องเดินทางกลับประเทศไทย มีคณะกรรมการร่วมตัดสินทั้งหมด 5 ท่านโดยแบ่งเป็นคณะกรรมการตัดสิน 4 ท่านและประธานอีก 1 ท่านซึ่งประธานทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายแต่ไม่ได้เป็นผู้ร่วมให้คะแนน
กรรมการผู้ตัดสินจากประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซียและแคนาดาในการตัดสินจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มเพื่อที่จะทำการคัดเลือกชิ้นงานโดยพิจารณาจากคุณภาพว่าเข้าเกณฑ์และตรงตามหมวดแต่ละหมวด แบ่งเป็น 2 กลุ่มไทยอยู่กับสิงคโปร์และมาเลเซียอยู่กับแคนาดาหลังจากการคัดเลือกชิ้นงานขั้นแรกเรียบร้อยแล้ว จะมีการประชุมเพื่อคัดเลือกอีกรอบ หากหมวดไหนมีชิ้นงานเกินโควต้ารางวัล ก็จะมีการประชุมเพื่อคัดออกอีกครั้ง หลังจากนั้นจะเป็นการพิจารณาว่าชิ้นไหนจะได้รางวัลเหรียญทองเหรียญเงินหรือเหรียญทองแดง หรือว่าไม่ได้เหรียญอะไรเลย
ด้วยความเชี่ยวชาญของคณะกรรมการแต่ละท่านทำให้ไม่เกิดปัญหาระหว่างการตัดสินเพราะมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีทั้งหมด 19 หมวดใช้เวลาในการตัดสินรวมคัดเลือกภาพทั้งหมด 3 วัน ซึ่งการตรวจให้คะแนนจริง ๆ ใช้เวลาแค่ 2 วันครึ่งแต่อีกครึ่งวันเป็นการคัดเลือกผลงานที่จะผ่านเข้ารอบการตัดสินแต่ละหมวด โดยการวางแผนว่าในแต่ละวันจะตรวจได้ทั้งหมดกี่หมวด”
ในด้านของเกณฑ์การตัดสิน คุณประสิทธ์เล่าว่า “จะเน้นในเรื่องของคุณภาพ ส่วนเรื่องความคิดสร้างสรรค์จะเป็นประเด็นรอง คณะกรรมการจะพิจารณาผลงานหากบริษัทไหนส่งงานซ้ำหรือ 1 ชิ้นงานแต่ลงหลาย ๆ หมวดคณะกรรมการจะเลือกชิ้นที่ดีที่สุดเท่านั้น การทำงานของคณะกรรมการจะใช้ความสามารถและทักษะของแต่ละท่าน ทุกท่านเป็นเจ้าของธุรกิจและคลุกคลีอยู่ในวงการอุตสาหกรรมการพิมพ์ และเคยผ่านการเป็นคณะกรรมการจากหลาย ๆ เวทีมาแล้ว ดังนั้นจึงสามารถมองเห็นได้ถึงคุณภาพของงานแต่ละงานได้เพียงแค่การมองดูด้วยตาเปล่า
แต่ก็จะมีบางหมวดหรือบางผลงานที่ความเห็นของคณะกรรมการไม่ตรงกันก็จะใช้วิธีการโหวตแต่ก็จะเป็นส่วนน้อยที่จะใช้วิธีการนี้ มีแค่หมวดเดียวเท่านั้นที่ใช้วิธีการโหวต กรรมการทุกท่านจะให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพหากงานชิ้นไหนคุณภาพไม่ได้มาตรฐานถึงเกณฑ์ก็จะถูกตัดตกไป”
ในด้านของจำนวนผลงานที่ส่งเข้ามาประกวดคุณประสิทธิ์กล่าวว่า “ในปีนี้มีจำนวนมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น อินเดียหรือศรีลังกาเป็นประเทศที่ส่งผลงานเข้ามาค่อนข้างเยอะและส่งหลายหมวดพอสมควร แต่เนื่องจากเป็นการส่งครั้งแรก ๆ จะใช้วิธีการนำผลงานที่มีอยู่แล้วและสอดคล้องกับหมวดนั้น ๆ ส่งเข้าร่วมประกวด หากพิจารณากันในเรื่องของคุณภาพ ผลงานของประเทศไทยมีคุณภาพกว่า พิสูจน์ได้จากการที่ประเทศไทยได้รับรางวัลเหรียญรวมทั้งหมด 31 เหรียญ”
นอกจากเป็นคณะกรรมการตัดสินแล้ว ประเทศไทย ยังมีผู้เดินทางเข้ารับรางวัล Asian Print Awards 2024 ด้วยตัวเอง ซึ่งทางทีมงานวารสาร Thai Print ได้มีบทสัมภาษณ์สั้น ๆ เกี่ยวกับบรรยากาศในงาน จากคุณนันทนัช เจียรมณีทวีสิน (นัช) บริษัท อิมเมจ ควอลิตี้ แล็บ จำกัด มาให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ
โดยทางคุณนัชได้เล่าว่า “นัชได้มีโอกาสเข้าร่วมงานมอบรางวัลเนื่องจากทาง Asian Print หรือผู้จัดงาน ได้แจ้งมาว่าทาง IQ Lab ได้รับรางวัลจึงได้เชิญเข้าร่วมงานในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งมีบริษัทจากประเทศไทยเข้าร่วมงานหลายบริษัทเพราะของไทยได้รับหลายรางวัล แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าในงานประกาศรางวัลไม่ได้มีการวางชิ้นงานไว้ให้ได้ดูมีเพียงแค่การโชว์ภาพแต่ละชิ้นงานตอนที่เจ้าของงานขึ้นรับรางวัลเท่านั้น รอบ ๆ งานจะมีโต๊ะของซัพพลายเออร์มาตั้งบูธเพื่อโชว์นวัตกรรมต่าง ๆ ของตัวเอง และในงานรับรางวัลครั้งนี้ IQ Lab ได้รับ 1 รางวัลเป็นรางวัล Bronze จากงานหนังสือ ในหมวด book printing”
ความรู้สึกจากการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ คณนัชบอกว่า “จากผลการประกวดในครั้งนี้ ในความเห็นของนัช คือ สามารถชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถแข่งขันในระดับอาเซียนหรือระดับสากลได้เนื่องจากเราได้รางวัลค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นในด้านคุณภาพหรือความคิดสร้างสรรค์การนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ ประเทศไทยมีความสามารถไม่แพ้ประเทศอื่น หากโรงพิมพ์ไหนมีผลงานดี ๆ อยากให้ลองส่งเข้ามาประกวดเพราะสามารถแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโรงพิมพ์เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” คุณนัชกล่าว