เจาะลึกเทรนด์สีปี 2022

เจาะลึกเทรนด์สีปี 2022

โดย Creative Thailand

สถานการณ์ต่าง ๆ ที่บีบคั้นทำให้กลุ่มสี ที่ปรากฏในปีนี้เป็นแรงผลักด้านจิตใจและการแสวงหาความสุขด้วยการแยกตัวและอยู่ลำพังเป็นเวลานาน ธรรมชาติและความมีชีวิตชีวาจะมีพลังอย่างชัดเจน เทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญในฐานะจุดเชื่อมต่อระหว่างเครื่องมือดิจิทัล จนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างและพัฒนาความสัมพันธ์การสัมผัส จนถึงเป็นที่พึ่งทางจิตใจและจิตวิญญาณมีคุณค่ามากขึ้นในชีวิตประจำวัน

สีหลักของปี 2022 ทั้ง 7 สี เกิดจากกระบวนการวิเคราะห์และคัดกรองจากสำนักเทรนด์ต่าง ๆ ก่อนถอดค่ารหัสสีเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน จนกลายเป็นกลุ่ม และเฉดสีที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในปีหน้าที่จะมาถึง โดยประเด็นหลัก กลุ่มสีจะสะท้อนถึงการผสมผสาน ควบรวมตั้งแต่เฉดสีออร์แกนิกที่จริงแท้ตามธรรมชาติ ไปจนถึงโทนสีสังเคราะห์ที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างแปลกใหม่ตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกย้อนแย้งในประสบการณ์และความรู้สึก

หนึ่งในความพิเศษของวงการเทรนด์สีสำหรับปี 2022 คือ ความร่วมมือของสำนักคาดการณ์แนวโน้มอย่าง WGSN และ Coloro บริษัทสีชั้นแนวหน้าที่ปฏิวัติระบบการสร้างสรรค์ด้านสีจนมีกว่า 3,500 โทน ทำให้การคาดการณ์สีมีความแม่นยำและสมเหตุสมผล โดยเฉพาะการได้รับข้อมูลจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสีของบริษัท Coloro เกี่ยวกับกระบวนการได้มาของโทนสีบนวัสดุที่มีพื้นผิวแตกต่างกัน โจแอนน์โธมัส (Joanne Thomas) กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานร่วมกันโดยตรงกับทีมคาดการณ์แนวโน้มจาก WGSN มีข้อดีตรงที่สามารถระบุสีตามฤดูกาลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจที่จะต้องทราบล่วงหน้า การคาดการณ์สีที่เกิดขึ้นจึงช่วยสร้างสมดุลระหว่างความต้องการความแปลกใหม่กับความต้องการอันคุ้นเคย ที่ช่วยนำความรู้สึกตื่นเต้นและการมองโลกในแง่ดีมาสู่ฤดูกาล

1. สีเขียวสะท้อนแสง Acid Lime

หลอมรวมระหว่างความเก่าและใหม่ ความจริงแท้และสิ่งสังเคราะห์ สีเขียวสะท้อนแสงหรือ Acid Lime อดีตคือสีย้อมไนโตรโซสังเคราะห์ ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อทางการค้า Naphthol Green B ตามประวัติได้รับการระบุเป็นครั้งแรกในแผนภูมิสีเชิงพาณิชย์ในฐานะสีสำหรับวาดภาพของศิลปิน ความจริงแล้วกลุ่มสีสังเคราะห์นี้ผลิตครั้งแรกในช่วงปี 1883 และเป็นที่รู้จักกันดีในการย้อมผ้า การค้นพบครั้งนั้นจึงกระตุ้นให้เกิดการวิจัยที่เกี่ยวกับกระบวนการผลิตอย่างรอบด้าน ตั้งแต่คุณสมบัติความคงทนและผลลัพธ์เชิงเคมีของสี ก่อนสรุปผลการวิจัยว่าสีดังกล่าวนั้นเหมาะสำหรับเป็นสีทาบ้าน วอลเปเปอร์ หรือ หมึกพิมพ์

อย่างไรก็ตาม ภายใต้มาตรฐานสมัยใหม่ สีเขียวสะท้อนแสงไม่ตอบโจทย์ความคงทนต่อแสงของเม็ดสี นับตั้งแต่ ปี 1956 ศิลปินจึงไม่นิยม ใช้สีดังกล่าว สันนิษฐานว่าน่าจะถูกแทนที่ด้วยเม็ดสีเขียวอินทรีย์ที่มีความเสถียรกว่า สี Acid Lime จึงเป็นตัวแทนของความแปลกใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ที่หลอมรวมระหว่างความเก่าและใหม่ ความจริงแท้และสิ่งสังเคราะห์โดยนิตยสาร Elle Decor ยกให้เป็นหนึ่งในสีสุดฮอตของปีนี้

2. สีเหลืองเข้มเฉดมะม่วงสุก Radiant Yellow

สีแห่งความมั่นใจและการกักตุนพลังบวกเอาไว้ภายใน รายงานจาก Forbes กล่าวถึงสภาวะหมดไฟของกลุ่มมิลเลนเนียลที่เกิดขึ้นก่อนที่วิกฤตการณ์โควิด-19 จะเริ่มต้น การผ่านบททดสอบเหตุการณ์สำคัญของโลกมาแต่ละยุคสมัย จนกระทั่งเผชิญหน้ากับภัยโรคระบาด ยิ่งทำให้เจนนี้รู้สึกเหนื่อยหน่ายมากกว่าเดิมหลายเท่า โดยมากกว่า 52% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวอเมริกันบอกว่าพวกเขาหมดไฟตั้งแต่ก่อนเจอวิกฤติล็อกดาวน์และความเหน็ดเหนื่อยนี้ได้เริ่มทวีคูณขึ้น ทำให้ไม่สามารถแยกความหงุดหงิดกับปัญหาสุขภาพจิต ได้สถาบัน Centers for Disease Control and Prevention ได้ให้ความเห็นว่าการเปลี่ยนทัศนคติต่อชีวิต จะทำให้มิลเลนเนียลรู้จักคำว่ายืดหยุ่นได้มากขึ้น

“มองโลกในแง่ดีเข้าไว้นะ” สำนักคาดการณ์เทรนด์อนาคต WGSN ให้ความเห็นว่าการจะเดินหน้าต่อไปข้างหน้า ต้องสร้างความมั่นใจและกักตุนพลังบวกเอาไว้ภายในจิตใจให้มาก ๆ ซึ่งสีที่ทำให้เกิด พลังในใจได้สำหรับปีนี้คือสีเหลือง Radiant Yellow เหลืองเข้มเฉดมะม่วงสุกที่เป็นตัวแทนแห่งการมองโลกในแง่บวก พลังงานจากจานสีเฉดนี้จะสามารถนำความบิดเบี้ยวให้กลับมาสว่างสดใสได้อีกครั้ง

3. กลุ่มสีชมพูอมม่วง Festival Fuchsia

สีแห่งการปลดปล่อย มอบพลังขับเคลื่อนทั้งในชีวิตจริงและโลกดิจิทัล กลุ่มสีชมพูอมม่วง Festival Fuchsia แสดงค่าสีที่เข้มข้น สมจริง และพลังที่ขับเคลื่อนทั้งในชีวิตจริงและโลกดิจิทัล ใช้งานได้หลากหลายมากพอที่จะใช้ออกแบบโดยไม่มีเงื่อนไขด้านฤดูกาลและเขตแดนในแต่ละประเทศ สีดังกล่าวจึงเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างความรู้สึกเชิงบวกและการหลีกหนีเพื่อสร้างพลังให้ตนเองอีกครั้ง

สำนักเทรนด์ NellyRodi ระบุเพิ่มเติมว่าเป็นเฉดสีแห่งการปลดปล่อยภาพลักษณ์ก่อนช่วงทศวรรษ 2000 ที่วับวาบเปล่งประกาย เปิดเผยชัดเจนในทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งยังมีความพิเศษที่มากกว่าปกติ (Ultra) ไม่ว่าจะเป็นความหรูหรา เซ็กซี่เย้ายวนใจ สตรีทแฟชั่นที่มีสีสัน ที่่เน้นความเยอะจัดจ้านเพื่อแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวา เช่นเดียวกับการนำเสนอของบรรดาวล็อกเกอร์ (Vlogger) หรืออินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ในยุคนี้ที่ต้องการสร้างความตื่นตาตื่นใจและสร้างฐานแฟนคลับจากตัวตนที่แท้จริง

4. สีม่วงเฉด Purple Rose

แฝงด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์สำหรับสื่อโลก Virtual สีม่วงเฉด Purple Rose เป็นสีที่่ลดความตึงเครียดทางด้านอารมณ์ ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างพลังที่แข็งแกรงให้สื่อดิจิทัล และยังเป็นสีตั้งต้นในการสร้างธรรมชาติสังเคราะห์ในแพลตฟอร์มเสมือนจริง สตูดิโอ SPARRE ดีไซเนอร์จาก สตอกโฮล์มเชื่อว่าโลกยุคใหม่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยพลังของเทคโนโลยีนวัตกรรม 3D อีกทั้งแอนิเมชันจะสร้างโลกยูโทเปียในแบบที่เราต้องการ

5. สีครีม Anise Flower

ตัวแทนของความจิตดีและปรนนิบัติตนเอง รายงานจาก Mintel ระบุว่าของตกแต่งบ้านมีส่วนทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้รู้สึกผ่อนคลาย หลายแบรนด์ที่ทำการตลาดด้าน Well-being จึงจำเป็นต้องปรับผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบรับโสตประสาท ทั้งทางสายตา ผิวสัมผัส รสชาติ และกลิ่น ผลิตภัณฑ์ด้านกลิ่นถือเป็นสินค้าที่มาแรงมากที่สุด ในปี 2021 โดยมากกว่าครึ่ง ของผู้ที่ Work from Home ชาวอเมริกันเผยว่า เทียนหอมคือสะพานเชื่อมระหว่างความคิดและการดูแลตนเอง ส่งผลต่อการปรับพฤติกรรมการจัดบ้าน ทำความสะอาด และการลุกขึ้นมาทำอาหาร

6. สีฟ้า Stratosphere

สีแห่งนวัตกรรม ภูมิปัญญา รอยต่อระหว่างน้ำทะเลและท้องฟ้า สีฟ้า Stratosphere ชื่อเดียวกันกับชั้นบรรยากาศที่ได้รับผลกระทบ เป็นตัวแทนสำคัญของปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ที่ผลักดันให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาและความเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศโลก

นิตยสาร Viewpoint ได้กล่าวถึงเฉดสีฟ้าและเฉดสีเขียว โดยอ้างถึงงานเขียนของโธมัส เบอร์รี่ (Thomas Berry) นักประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ที่เคยกล่าวไว้ว่าเฉดสีนี้สามารถสื่อสารถึงจิตวิญญาณของธรรมชาติได้ดีและยังมีผลต่ออารมณ์ทำให้รู้สึกถึงการเห็นใจและเชื่อมโยงสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศให้มีจิตวิญญาณร่วม เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่ดีงาม

7. กลุ่มสีน้ำตาลโทนเข้ม Java

สีที่สะท้อนวัฏจักรและวงจรธรรมชาติบนวัฒนธรรมร่วมสมัย นักออกแบบยุคนี้เน้นการมองเกมแบบระยะยาว ไม่ได้เพียงหาแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ แต่ยังทำงานร่วมกับวัตถุดิบจริง ๆ จากแต่ละพื้นที่พร้อมคงรูปทรงและรายละเอียดที่จำเป็นไว้อย่างครบถ้วน การเคารพธรรมชาติจึงหมายถึงการตระหนักรู้ เข้าอกเข้าใจที่มาที่ไปเชิงวัสดุ ใช้ประโยชน์อย่างรอบด้าน สกัดกลั่นกรองกระบวนการรวมทั้งวิธีการเพื่อนำ ไปต่อยอด เรียนรู้รากเหง้าองค์ความรู้ดั้งเดิมและฝึกฝนสร้างความร่วมมือในวัฒนธรรมร่วมสมัย