มายการพิมพ์ ขยายธุรกิจตลาดการพิมพ์เชิงพาณิชย์
โดยเครื่องพิมพ์ดิจิทัล HP Indigo 7K
การจะลงมือทำอะไรให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องอาศัยความตั้งใจ การไม่หยุดหรือย่ำอยู่กับที่ พยายามคิดค้นอะไรใหม่ ๆ ให้กับตนเอง ตั้งเป้าหมายในการใช้ชีวิตและลงมือทำ ดังเช่น คุณสมศักดิ์ อมรพิทักษ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท มายการพิมพ์ จำกัด หรือ My press ที่แปลความหมายตรงตัวได้ว่า “โรงพิมพ์ของฉัน”
คุณสมศักดิ์ ได้เล่าว่าบริษัทเริ่มต้นจากการทำธุรกิจเล็ก ๆ โดยเริ่มจากการทำเครื่องสมัยก่อนที่เป็นเครื่องตีธง แล้วเริ่มขยายการทำงาน อาศัยการมีระเบียบวินัย และได้ภรรยาเข้ามาช่วยในการทำให้ธุรกิจ มีมาตรฐานหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ดีขึ้น แล้วขยายมาเรื่อย ๆ งานเริ่มต้นของเราเป็นงานบิลเล็ก ๆ ซึ่งเราบังเอิญเข้าไปอยู่ในกลุ่มที่เป็น label กลุ่มฉลาก ซึ่งงานส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าพวกส่งออกทั้งหมด ก่อนจะขยายงานมาทางด้านฉลากมากขึ้น ประกอบกับเป็นคนที่ทุกอย่างทำหมด เลยทำให้เรามีงานหลากหลายมาก แล้วจึงเริ่มเข้ามาสู่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์
โอกาสมาจากศูนย์ เลยทำงานทุกอย่างที่ทำได้ทั้งหมด จะยากลำบากก็ทำ พยายามจะทำให้สำเร็จ ทำให้เรามีความหลากหลายในการทำงานมาก และจะหนัก label เยอะ เราเพิ่งเริ่มมาขยายงาน Shrink พลาสติก ภายใน 3 ปีนี้ เพราะเรามองว่าตลาด เริ่มมีการขยายในเรื่องของฟิล์มและสติ๊กเกอร์ม้วน เราเลยเริ่มมองเห็นว่า ธุรกิจตรงนี้น่าจะเติบโตได้ แล้วพอเราลงมา 3 ปี ธุรกิจก็เติมโตแบบอัตรา สัดส่วนในแบบก้าวกระโดด ส่วนในเรื่องของฉลาก เราก็คิดว่าอัตราสัดส่วนของเราโตได้ เพราะของเราอยู่ในฐานที่ใหญ่มาก เราเลยมีความรู้สึกว่า อยากขายไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น
โอกาสในการขยายธุรกิจ
เราคิดว่าธุรกิจที่ทำอยู่ บางส่วนอาจจะเข้าไปสู่การทำ ในเรื่องของธุรกิจที่มี volume จำนวนน้อยกับธุรกิจที่สามารถมีความ premium เราเลยตัดสินใจที่จะลงไปในเครื่อง HP เพราะเรามีความรู้สึกว่าเครื่อง HP สามารถตอบโจทย์ได้หลายอย่างเครื่อง HP ในเรื่องของฉลาก ลูกค้าส่วนใหญ่ จะไม่ต้องการจำนวนที่เยอะ แต่โดนบังคับด้วยการสั่งที่เป็น minimum เราเลยตัดสินใจที่จะลง ในเครื่อง HP เป็นดิจิทัลตัวแรกในเอเชีย เราก็มีความเชื่อว่า เครื่องรุ่นนี้จะสามารถทำให้เติบโตในด้าน label ได้เพราะว่า เครื่องตัวนี้ถ้าขายในแบบเก่า จะมีกำไร margin ที่สูงขึ้น จึงพลิกเปลี่ยนจากการขาย ในขณะที่ไม่ต้องการ margin สูงมาก แต่ต้องการเป็นเจ้าตลาด
คนส่วนใหญ่คิดว่าลงทุนเครื่องถูก น่าจะได้ margin คืนเร็วกว่า แต่การลงทุนเครื่องที่ดีกว่าเหนือกว่า ทำให้ทำงานได้มากกว่าในราคาที่สูง และสามารถคืนทุนได้เร็วมากกว่า และความสูญเสียน่าจะน้อยกว่า และการที่ลูกค้าจะกลับมาใช้บริการอีก มีความเป็นไปได้สูงมาก
My Press “โรงพิมพ์ของฉัน”
หลังจากเรียนจบจึงได้ชวนคุณพ่อมาทำธุรกิจ โดยคุณพ่อได้เสนอให้ทำโรงพิมพ์ ด้วยความที่เป็นคนทะเยอทะยานสูง มีโครงการในหัวเยอะมาก โดยมีความคิดว่าจะต้องขึ้นมาเป็นตัวใหญ่ให้ได้ ดังนั้นจะต้องตัด Margin กำไรลดลงค่อนข้างมาก เพื่อจะทำให้เปิดตลาดกว้างขึ้น ลูกค้าเริ่มตอบสนอง ด้วยการเริ่มพิมพ์มากขึ้น แต่จุดนี้อาจต้องใช้ระยะเวลา เพราะทุกอย่างไม่สามารถที่จะโตได้เลยทันที
แนวทางการบริหารธุรกิจ และผลกระทบจาก Covid-19
ไม่ได้โดนผลกระทบจากโควิดเลย ช่วงนั้นกลับขายดีขึ้น ปีที่แล้ว เติบโตประมาณ 3% จากยอดขายที่ 500 กว่าล้าน ถือว่าเป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างสูง ผมยังเชื่ออีกว่า ปีนี้ My press น่าจะโตได้อีก My press ไม่ได้อยู่ในราคาที่ต่ำแต่อยู่ในระดับราคากลาง แต่ก็มียอดขายสูงสุด ดังนั้นคนทำธุรกิจที่ราคาถูก กลับไม่ใช่เจ้าตลาด เราขาย concept ในเรื่องของคุณภาพบริการ และตอบคำถามลูกค้าได้ทุกอย่าง
ดังนั้นโอกาสที่เราจะโตเยอะมาก แล้วเราก็เริ่มได้แบรนด์ใหญ่ แบรนด์ดังของอเมริกา เลยมีความมั่นใจว่า จะโตได้อีกแน่นอน ส่วนในเรื่องของตัว Print On Demand ผมเชื่อนะว่า ลูกค้าที่อยู่ตรงนี้ เริ่มส่งงานเล็ก ๆ น้อย ๆ มากขึ้น เพราะเขามีความรู้สึกว่า พิมพ์กับเรา มีสีที่มีคุณภาพ ตอบคำถามเขาได้ดีมาก แล้วระยะเวลาก็ได้ และจำนวนงานในลักษณะของโลกปัจจุบันเริ่มเปลี่ยน เริ่มมีการพิมพ์จำนวนน้อย แต่หลายไอเทมเยอะขึ้น เพราะฉะนั้นจึงมีโอกาสที่จะโตขึ้นได้ แต่อาจจะไม่เฉพาะเรื่องของงานพิมพ์ ผู้บริหารเองก็มีส่วนเช่นกัน ต้องมีความรู้มากและเชี่ยวชาญมากขึ้น รวมไปถึงพนักงาน ถ้าพนักงานมีส่วนร่วมเขาก็ได้ร่วมแรงแข่งขันกับเราด้วย คืนกำไรให้พนักงานที่เขาช่วยกันประหยัด แยกกระดาษสี กระดาษขาว หรือใช้กล่องมารีไซเคิลซ้ำ
ในปัจจุบันนี้ในส่วนของธุรกิจสิ่งพิมพ์ จะได้รับผลกระทบจากดิจิทัลเข้ามา อย่างพวก commercial พวกหนังสือพวกนิตยสาร จะมีปิดตัวลงไปบ้าง ในส่วนของ Label มีแนวโน้ม เป็นอย่างไร
เท่าที่ผมไปคุยกับลูกค้า แล้วผมเห็นลูกค้า ส่วนใหญ่ขยายโรงงาน ผมเลยมีความรู้สึกว่า ผมเชื่อว่าผมน่าจะโต 80 - 90% เพราะสมมติลูกค้าเปิดใหม่ ลูกค้าต้องการงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เรามีใจที่จะเอื้อเขาว่า “โอเคพี่ น้อยนะ ผมให้พี่นะ” หรือว่าทุนถูกไปนะ เขาจะมีความรู้สึกว่า ในเมื่อแบรนด์อยู่กับเราแล้ว ยังไงลูกค้าก็จะพิมพ์กับเรา ความหมาย คือ ไม่จำเป็นต้องขายถูกที่สุดแต่เน้นในด้านการให้บริการ
ในขณะที่ผมลงทุน หลาย 100 ล้าน ผมก็ไม่รู้สึกกังวลใจอะไรเลยนะ เพราะ concept ของผมก็คือ การขายงานแล้วทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกพึงพอใจ ถ้าตราบใดลูกค้ายังอยู่กับเรา คำตอบก็คือจบ แต่ถ้าเราขายแล้วลูกค้าไม่พึงพอใจ ก็คือความไม่แน่นอนแล้วของตัวเรา ของคนอื่นผมไม่รู้ แต่ผมรู้แต่ว่าสำหรับผม ลูกค้าต้องเป็นที่หนึ่ง
ความพึงพอใจต่อ HP
เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ประกอบธุรกิจ มันเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ถ้าคุณไม่มีเขา การประกอบธุรกิจใช้ยากมาก มันเลยเป็นสิ่งที่จำเป็น ผมใช้คำนี้โรงพิมพ์ที่มีเครื่อง Digital Print จากโทนเนอร์ตัวเดียว สามารถสร้างขึ้นมาเป็นโรงพิมพ์ได้ ผมว่าเขาเก่งนะ ฉะนั้นผมเลยคิดว่า HP เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ถ้าไม่ได้ในการประกอบธุรกิจ ผมคิดว่าจำเป็น อันนี้เป็นความจริง เพราะว่าไม่มีจะทำให้โดนแย่งงานได้ ดังนั้นผู้ที่สามารถตัดสินใจได้ก่อนจะได้เปรียบ ไม่ว่าอะไรก็ตาม ก้าวก่อนจะได้เปรียบเสมอ HP เข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าในงานของเรา คือ งานของเรานอกจากเป็นแค่ฉลาก จะทำให้มีงานหลากหลายมากขึ้น เราสามารถพิมพ์การ์ดเราสามารถพิมพ์แคตตาล็อกโบชัวร์ที่สวยงามโดยที่ใช้เทคโนโลยีของ HP เข้ามาช่วย ถ้าเราไม่มีเขาธุรกิจบางส่วนมันหายไป ธุรกิจที่เราเคยมีอยู่ ลูกค้าเราจะหาย เพราะมันจะทำให้ลูกค้าส่วนพวกนี้ ไม่พิมพ์กับเรา เพราะว่าต้นทุนของเขาถูกกว่าคนอื่นเยอะเลย เราถึงใช้คำว่า มันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่เราจะต้องมี เพราะถ้าเราไม่มี ธุรกิจก็จะอยู่วงนี้ แล้วมันจะแคบลง ดังนั้นการที่เรามี HP มันจะตอบโจทย์ได้
ก่อนที่ผมจะตัดสินใจซื้อ HP ผมก็ไปดูมา 3 สียี่ห้อ ถ้าการตัดสินใจเครื่องแต่ละตัว มันเหนื่อยกับการที่เราจะต้องศึกษา เครื่องทุกเครื่องที่ดูไม่ตอบโจทย์เขา ไม่สามารถทำงานได้สวย หรือได้เป็นหนึ่ง ดังนั้น HP สามารถทำงานได้สวย และเป็นที่หนึ่งจริง เครื่องทุกตัวถ้าคนดูงานเป็น ส่องเข้าไปแล้ว จะไม่ใช่ตอบโจทย์เรา งานไม่สวยพอที่จะสู้คนอื่นได้ ดังนั้นเราถึงเลือก HP ถ้าเป็นเครื่องใหญ่จะยิ่งง่ายกว่านี้ แต่จริง ๆ แล้ว ผมเข้าใจนะ ธุรกิจมันต้องมีเล็กและใหญ่สำหรับผม ต้องมี 2 เครื่องทั้งเครื่องเล็กและเครื่องใหญ่ แต่สำหรับคนอื่นที่เริ่มต้นอาจจะต้องมีเล็ก ผมถึงบอกว่าช้าหรือเร็ว ยังไงผมก็ต้องซื้อเครื่องใหญ่ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ อันนี้ผมพูดจากสิ่งที่ผมทำงานอยู่ แล้วความจำเป็นที่จะต้องมีเขาหรือไม่