บริษัท ทั้งฮั่วซิน จำกัด Prime Minister’s Export Award การันตีมาตรฐานในระดับสากล

บริษัท ทั้งฮั่วซิน จำกัด
Prime Minister’s Export Award การันตีมาตรฐานในระดับสากล

Prime Minister’s Export Award หรือ PM Export Award เป็นรางวัลสูงสุดของรัฐบาลที่มอบให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจดีเด่น เพื่อแสดงถึงภาพลักษณ์ของคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าไทยในตลาดโลก ปัจจุบันมีผู้ได้รับรางวัลรวม 638 บริษัท 745 รางวัล โดยในปี 2563 มีบริษัทที่ผ่านการพิจารณา และตัดสินให้เข้ารับรางวัล ใน 7 สาขารางวัล รวม 34 บริษัท 37 รางวัล ซึ่ง Thai Print Magazine จะนำท่านไปรู้จักกับ บริษัท ทั้งฮั่วซิน จำกัด ที่สามารถคว้ารางวัล Best Service Enterprise Awards ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ธุรกิจบริการยอดเยี่ยม สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์

คุณธีรุต ทังเกษมวัฒนา ผู้บริหารรุ่นที่ 3 ของ บริษัท ทั้งฮั่วซิน จำกัด เล่าความเป็นมาของบริษัทให้ฟังว่า เรื่องราวของเราเริ่มต้นในปี 1963 ในห้องแถวสี่คูหาบริเวณวงเวียน 22 วิธีการผลิตส่วนใหญ่ทำด้วยมือ หลังจากนั้นทั้งฮั่วซินได้ขยายธุรกิจ โดยเริ่มพิมพ์ฉลากสำหรับสินค้ากระป๋อง ก่อนที่จะออกสู่บรรจุภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ จากจุดเริ่มต้นเราเข้าใจว่าบรรจุภัณฑ์สำหรับการบริโภคยุคใหม่ต้องทำมากกว่าการบรรจุและปกป้องผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยซึ่งแตกต่างจากภาชนะแบบดั้งเดิมจำเป็นต้องสื่อสารถึงสาระสำคัญของผลิตภัณฑ์และสร้างความแตกต่างของแบรนด์ให้กับผู้บริโภค นอกเหนือจากความน่าสนใจแล้วยังต้องรักษาคุณภาพของสินค้าไว้เป็นระยะเวลานานใช้งานง่าย ปัจจุบันทั้งฮั่วซินกรุ๊ปผลิตฉลากกล่องพับกล่องกระดาษลูกฟูกและบรรจุภัณฑ์แบบยืดหยุ่นสำหรับ FMCG หรือ Fast-Moving Consumer Goods ทุกประเภทรวมถึงอาหารเสื้อผ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอุปกรณ์ทางการแพทย์และชิ้นส่วนยานยนต์

บริษัท ทั้งฮั่วซิน จำกัด ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลด้านการผลิตที่มีคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร เช่น ISO 9001, ISO 14001, GMP, HACCP, BRC / IOP, SEDEX และ OHSAS 18001 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกขั้นตอนการผลิตเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

Prime Minister’s Export Award พิสูจน์ความมีมาตรฐานในระดับสากล

ในด้านการบริหาร คุณธีรุตกล่าวว่า เนื่องจากเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 3 จึงถือว่าเป็นข้อได้เปรียบเนื่องจากมีพื้นฐานที่ค่อนข้างมั่นคงอยู่แล้วจากรุ่นแรก และรุ่นที่ 2 สิ่งที่ได้รับคือ ประสบการณ์ที่จะช่วยให้บริษัทให้พัฒนาไปในทางที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นลดการ IMPACT ต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการการผลิต รวมไปถึงการดูแลพนักงาน ปฏิบัติต่อพนักงานด้วยความเสมอภาค ความมีคุณธรรม ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้มีความแตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ แต่จะเน้นในด้านการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยในการพัฒนารวมไปถึงการขยายไลน์การผลิตให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งฮั่วซินมีความพยายามที่จะพัฒนาองค์กรอยู่ตลอดเวลา โดยโฟกัสให้อยู่ในมาตรฐานระดับสากล รางวัล PM Export Award ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับบริษัทส่งออกตอบโจทย์ในข้อนี้ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าบริษัทมีมาตรฐานสากล ส่งผลให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในภาพลักษณ์ต่าง ๆ ของบริษัทมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมีส่วนช่วยพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน

ทั้งฮั่วซินมีการปรับปรุงวัตถุดิบ พัฒนาคุณภาพ ให้มีมาตรฐาน เพื่อปรับตัวรับ Disruptive Technology และรองรับลูกค้าในระดับโกลบอล การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมีส่วนช่วยพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน หากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง จะไม่สามารถตามกระแสโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้ทัน

อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยังมีอนาคต เนื่องจากทำหน้าที่ส่งเสริมการตลาด บรรจุภัณฑ์หรือหีบห่อนอกจากจะช่วยป้องกันสินค้าแล้ว ยังมีส่วนเป็นอย่างมากในการช่วยตัดสินใจให้ซื้อสินค้านั้น ๆ ในอนาคตหลายประเทศจะปรับเปลี่ยนจากประเทศกำลังพัฒนาสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว การจับจ่ายสินค้าจะพัฒนาไปสู่โมเดิร์นเทรดมากยิ่งขึ้น ดังนั้น อุตสาหรรมบรรจุภัณฑ์ยังสามารถเติบโตไปได้ในระยะกลางและระยะยาว

กระจายความเสี่ยงเพื่อรับมือกับ COVID-19 และสถานการณ์ที่กระทบเป็นวงกว้าง

ธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ทำให้ต้องคิดกลยุทธ์และแผนการทำงานใหม่เพื่อรับมือและตอบสนองพฤติกรรมของลูกค้าในสถานการณ์เช่นนี้ ลูกค้าของบริษัทได้รับผลกระทบบ้างแต่ก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากทั้งฮั่วซินมีกลุ่มลูกค้าที่ครอบคลุมอยู่ในทุกอุตสาหกรรม บางกลุ่มอาจจะลดลงไป แต่บางกลุ่มมีเพิ่มขึ้นมา จึงไม่ได้มีการปรับอะไรมากนัก

สิ่งที่ COVID-19 สอนเราคือ อย่าโฟกัสแค่อุตสาหกรรมเดียว หากเกิดสถานการณ์ที่มีผลกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลกเช่นนี้อีกครั้ง จะเกิดผลกระทบอย่างหนัก ควรกระจายความเสี่ยงด้วยการหาลูกค้าที่ครอบคลุมอยู่ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม ในส่วนบุคคลเองก็ควรฝึกฝนให้มีความรู้ในรอบด้าน การถนัดหรือมีความเชี่ยวชาญเพียงเรื่องเดียวอาจจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป