เบอร์เทลส์แมนน์พริ้นติ้งกรุ๊ปเลือกใช้โมเดล Subscription ที่โรงพิมพ์ทั้งสองแห่งของบริษัท

เบอร์เทลส์แมนน์พริ้นติ้งกรุ๊ปเลือกใช้โมเดล Subscription ที่โรงพิมพ์ทั้งสองแห่งของบริษัท

• มอนมีเดียและโวเกลดรุ๊กทั้งสองโรงพิมพ์คาดการณ์ถึงผลผลิตที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการวัดประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรที่ดียิ่งขึ้น
• เป้าหมายของสององค์กรคือ “ความร่วมมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต” เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี
• เครื่องพิมพ์รุ่น Speedmaster XL 106 ที่ใช้ระบบอัตโนมัติระดับสูงนี้จะแทนที่เครื่องพิมพ์ของแบรนด์อื่นที่โรงพิมพ์ทั้ง 2 แห่ง

ทุกท่านต่างรอคอยเครื่องพิมพ์ใหม่ทั้ง 2 เครื่อง (จากซ้ายไปขวา) มร.โรแลนด์ วิทที ผู้จัดการฝ่ายผลิตและเทคโนโลยีของมอนมีเดีย, ดร.นิคลาส ดาริจชุ๊ค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ BPG, มิสจูเลีย อิสซาเบล เชฟเฟอร์ หัวหน้าแผนกการพิมพ์ระบบออฟเซตของมอนมีเดียและมร.จ๊อร์ก คูเชนไมสเทอร์ กรรมการผู้จัดการของโวเกลดรุ๊ค

เบอร์เทลส์แมนน์พริ้นติ้งกรุ๊ป (Bertelsmann Printing Group-BPG) ตัดสินใจเซ็นต์สัญญาใช้ผลิตภัณฑ์ตามรูปแบบของโมเดล Subscription ที่โรงพิมพ์ทั้งสองแห่งของ BPG ได้แก่ ที่โรงพิมพ์มอนมีเดีย (Mohn Media) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเฮิชเบิร์ก (Höchberg) และโรงพิมพ์โวเกลดรุ๊ค (Vogel Druck) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองวุสเบิร์ก (Würzburg) “เรามีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการผลิตโดยการวัดประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรเพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี ความร่วมมือในการส่งเสริมประสิทธิภาพการผลิตโดยการใช้โมเดล Subscription เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานซึ่งทำให้เราเชื่อมั่นว่าในระยะเวลา 5 ปีนี้ ไฮเดลเบิร์กจะดูแลรับผิดชอบทั้งในเรื่องศักยภาพการผลิตและความพร้อมใช้งานของเครื่อง” ดร.นิคลาส ดาริจชุ๊ค (Dr.Niklas Darijtschuk) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operation Officer) ของ BPG กล่าว

การตกลงครั้งนี้เป็นบทสรุปหลังจากที่ได้เจรจาหารือกันหลายครั้งและจากทุกรอบการประชุมที่เข้มข้นซึ่งครอบคลุมในทุกรายละเอียด อาทิ ข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับจากระบบการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตของทั้งสองโรงพิมพ์ ข้อมูลตัวเลข โครงสร้างลักษณะงานเพื่อการจัดพิมพ์โดยระบบออฟเซต เหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์ประเมินผลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้โรงพิมพ์ทั้งสองแห่งเข้าใจเกี่ยวกับศักยภาพการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตและการวางรูปแบบพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ของบริษัท “นับเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญยิ่ง เรามีความยินดีที่เบอร์เทลส์แมนน์พริ้นติ้งกรุ๊ปเลือกใช้โมเดล Subscription และเราภูมิใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกับ BPG” ศาสตราจารย์ ดร.อูลริช.เฮอร์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายดิจิทัล (Chief Digital Officer) ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของไฮเดลเบิร์กที่กำกับดูแลผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของโซลูชั่นส์ Lifecycles กล่าว “โรงพิมพ์มากมายต่างตระหนักว่าผลกำไรที่ได้รับจะไม่ได้เพียงขึ้นอยู่กับศักยภาพในการผลิต แต่ยังเกี่ยวข้องกับเวลาที่ใช้ในแต่ละรอบการผลิต ปัจจัยต่างๆ ที่มีส่วนที่ทำให้ BPG ตัดสินใจเลือกใช้โมเดล Subscription นอกเหนือจากเครื่องพิมพ์ประสิทธิภาพสูงของไฮเดลเบิร์กที่มีอายุการใช้งานยาวนาน แต่ยังได้แก่วิธีการควบคุมกระบวนการทำงาน ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ การบริหารจัดการข้อมูล การบริหารจัดการตามเกณฑ์มาตรฐาน ลำดับของขั้นตอนการผลิตงานแบบอัตโนมัติ โมเดล Subscription ได้ส่งมอบสิ่งที่ทุกคนกำลังต้องการด้วยเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือความเสถียรในการผลิตงานด้วยประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรที่ดียิ่งขึ้นตลอดอายุการใช้งานเครื่อง ซึ่งจะส่งมอบทั้งผลกำไรในระยะยาวและได้รับความคุ้มทุนจากการลงทุนเครื่องพิมพ์ได้ในเวลาที่รวดเร็ว”

การพิมพ์งานที่วางใจได้ด้วยผลงานพิมพ์ที่คงคุณภาพงานได้อย่างสม่ำเสมอ

ข้อตกลงระหว่างสองบริษัทครอบคลุมว่าไฮเดลเบิร์กสามารถส่งมอบงานพิมพ์ตามยอดพิมพ์ดังที่คาดการณ์ไว้ในช่วงระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี ด้วยประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องพิมพ์ที่โรงพิมพ์ทั้งสองสาขาซึ่งจะเพิ่มมากขึ้นและจะดำเนินไปในแนวทางเดียวกัน และเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายดังกล่าว ฝ่ายบริการของไฮเดลเบิร์กจะจัดหลักสูตรฝึกอบรมที่เข้มข้นและรับประกันในการส่งมอบการบริการตลอด 24 ชั่วโมงให้กับทีมงานของ BPG พร้อมทั้งจัดหาคลังเก็บสินค้าโดยสัญญาของโมเดล Subscription ระหว่างสองบริษัทยังรวมถึงการบริหารสต็อคเก็บผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ อะไหล่ วัสดุอุปกรณ์การพิมพ์ที่ BPG ใช้ในการผลิต (โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ข่าวประชาสัมพันธ์ที่เว็บไซต์ไฮเดลเบิร์กเรื่อง “Heidelberg expands subscription service, taking care of all consumables-related logistics operations for customers”)

และในช่วงฤดูใบไม้ผลิของเราในปี พ.ศ. 2563 นี้ โรงพิมพ์ทั้งสองแห่งจะติดตั้งเครื่องพิมพ์รุ่น Speedmaster XL 106 ที่ใช้ระบบอัตโนมัติระดับสูงซึ่งจะติดตั้งแทนที่เครื่องพิมพ์รุ่นเดิมที่เป็นแบรนด์ของยี่ห้ออื่น 2 เครื่องที่โรงพิมพ์สาขาของ BPG ทั้ง 2 แห่ง โดยเครื่องพิมพ์รุ่น Speedmaster XL 106 10 สีพร้อมหน่วยเคลือบและระบบกลับกระดาษในตัวจะติดตั้งที่โรงพิมพ์ มอนมีเดียและที่โรงพิมพ์ โวเกลดรุ๊คจะติดตั้งเครื่องพิมพ์ 9 สีในรุ่นเดียวกันนี้ จุดมุ่งหมายในการใช้ระบบการผลิตแบบอัตโนมัติด้วยแนวคิด “Push to Stop” นี้เพื่อให้แน่ใจว่าทางโรงพิมพ์มีความพร้อมในทุกด้าน มีข้อมูลครบถ้วนในระบบการทำงาน และการบริการที่ได้รับจะครอบคลุมทุกส่วนโดยการใช้แพลตฟอร์ม Heidelberg Assistant ซึ่งเป็นโปรแกรมด้านการบริการระบบดิจิทัล ตลอดจนใช้ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ Prinect Production Manager เพื่อจะช่วยให้ระบบการผลิตงานรวดเร็ว คล่องตัว การบริการยังรวมถึงการตรวจสอบระบบแบบคาดการณ์ล่วงหน้า (Predictive Monitoring) เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพในการทำงานและการเป็นที่ปรึกษาเพื่อให้ระบบการผลิตมีความเสถียรในระดับสูง

“การส่งมอบงานที่มีคุณค่าของเรามุ่งเน้นในการผลิตงานด้วยการใช้ความเร็วในการพิมพ์สูง ใช้เวลาตั้งเครื่องหรือเวลาตรวจเช็คไม่นาน เพื่อช่วยให้มีเวลาการผลิตงานได้ในระยะยาวนานมากขึ้น” ดร.เดวิด ชเม็ดดิ้ง (Dr.David Schmedding) ผู้อำนวยการฝ่ายโมเดลธุรกิจ Subscription ของไฮเดลเบิร์กกล่าว “นี่ถือว่าเป็นจุดแข็งของทางไฮเดลเบิร์ก การลดเวลาหยุดเครื่อง ความเสถียรของกระบวนการผลิตเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มผลกำไรให้กับทางโรงพิมพ์” การวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการผลิตเป็นเครื่องยืนยันว่าระบบการพิมพ์โดยเครื่องพิมพ์ออฟเซตของไฮเดลเบิร์กผลิตงานพิมพ์โดยเฉลี่ยมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ตลอดอายุการใช้งานที่มากกว่าการผลิตโดยเครื่องพิมพ์ของแบรนด์จากยี่ห้ออื่น

เกี่ยวกับเบอร์เทลส์แมนน์พริ้นติ้งกรุ๊ป

เบอร์เทลส์แมนน์พริ้นติ้งกรุ๊ปเป็นบริษัทที่มีเครือข่ายในหลากหลายธุรกิจ อาทิ การพิมพ์ การบริการด้านการตลาดและมีบริษัทในเครือมากกว่า 20 บริษัท บริษัทต่างๆ ตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษและในอเมริกา มีพนักงานมากกว่า 8,000 คน ธุรกิจของบริษัทครอบคลุมถึงการบริการด้านการพิมพ์ การตลาดผ่านช่องทางที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นด้วยความพร้อมของระบบข้อมูล ตลอดจนมีบริการด้านบริหารจัดการการส่งเสริมการขายที่มีประสิทธิผล