คุณทรงสิทธิ์ หอวิจิตร
CYBER SM (THAI) CO., LTD.
ตั้งใจทำงานกับคู่ค้าเพื่อพัฒนาวงการพิมพ์ไทย มุ่งมั่นที่จะจัดหาสินค้าและสนับสนุนลูกค้าอย่างยั่งยืน
วารสาร Thai Print ฉบับนี้ได้รับเกียรติจาก คุณทรงสิทธิ์ หอวิจิตร กรรมการผู้จัดการ CYBER SM (THAI) CO., LTD. ให้เข้าสัมภาษณ์เพื่อพูดคุยถึงมุมมองที่คุณทรงสิทธิ์มองอุตสาหกรรมการพิมพ์ในยุคปัจจุบัน โดยได้เล่าว่า บริษัททำงานเพื่อเป็นมากกว่าผู้แทนจำหน่าย ทำงานด้วยความคิดของพาร์ทเนอร์ของคู่ค้า โดยเรามุ่งหมายให้คำตอบทางการพิมพ์และการบริการที่ครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าสามารถมุ่งความสำคัญไปที่ CORE COMPETENCIES (ความสามารถหลัก) ขององค์กรและสร้างความแตกต่างที่เหนือกว่าคู่แข่งได้อย่างยั่งยืน
CYBER SM (THAI) CO., LTD. ก่อตั้งในปี 2014 เกิดจากการรวมกันของ บริษัท CYBER GRAPHIC (2000) และ บริษัท SM GRAPHICS CENTER ซึ่งทั้ง 2 บริษัทคือบริษัทเครือ CYBER และบริษัท SM GRAPHICS CENTER ต่างก็เป็นผู้แทนจำหน่ายที่มีประสบการณ์ในวงการมากกว่า 43 ปีและ 28 ปีตามลำดับ โดยในขณะนี้เครือบริษัท CYBER เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ทางการพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยมีสาขาครอบคลุมทั้งไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ทั่วเอเชีย นอกจากนี้เครือบริษัท CYBER ยังมีโชว์รูมเป็นของตัวเองถึง 4 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือที่ สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย) ซีนาย (มาเลเซีย) และกรุงเทพมหานคร เพื่อสนับสนุนลูกค้าทั้งการทดลองงานพิมพ์ การฝึกสอนพนักงาน และการบริการหลังการขาย
CYBER SM (THAI) CO., LTD. ตั้งเป้าหมายที่จะจัดหาคำตอบทางการพิมพ์ให้แก่ลูกค้าด้วยเครื่องพิมพ์ เครื่องหลังการพิมพ์ และอุปกรณ์อื่นๆ เกี่ยวกับการพิมพ์ และเครื่องจักรอื่นๆ จากนานาประเทศเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้า เราคัดสรรสินค้าด้วยเป้าหมายที่จะทำให้ลูกค้าสามารถสร้างความแตกต่างและบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน เราภูมิใจนำเสนอบริการหลังการขายที่รวดเร็วและมีคุณภาพ ด้วยจำนวนพนักงานช่างที่สนับสนุนหลังการขายมากถึง 30 คนมากที่สุดในตลาดปัจจุบัน โดยเราได้มีการจัดฝึกสอนพนักงานทั้งการไปฝึกงานในต่างประเทศและการจัดอบรมภายในประเทศอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังมุ่งพัฒนาวงการพิมพ์ไทยโดยเราได้มีการจัดสัมมนาและพาคู่ค้าไปดูงานในต่างประเทศเพื่อให้เกิดความคิดแปลกใหม่เพื่อพัฒนาวงการพิมพ์ไทยไปสู่ระดับสากล บริษัทใช้เวลา 5 ปีในการสร้างบริษัทให้ติดตลาดและเป็นที่รู้จัก เนื่องจากในสมัยเริ่มแรกนั้นอุตสาหกรรมอยู่ในช่วง Sunrise เป็นช่วงที่ใช้การพิมพ์เป็นจำนวนมาก ทำให้การเป็นที่รู้จักไม่ใช่เรื่องยากเท่าใดนัก
คุณทรงสิทธิ์เล่าต่อว่า ในระยะหลังที่อุตสาหกรรมการพิมพ์กำลังอยู่ภาวะที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นช่วง Sunset อย่างที่เห็นกันว่ามีการปิดตัวกันของหนังสือไปค่อนข้างมาก ทาง CYBER SM เอง ได้มีการปรับตัวด้านการให้บริการให้ทันใจลูกค้ามากที่สุด ทางด้านโรงพิมพ์เองนั้นต้องบริการลูกค้าให้ดีที่สุดเช่นกัน เรื่องไหนที่สามารถช่วยให้ลูกค้าประหยัดได้ก็ควรแนะนำ อย่างเช่นบริษัทของเราที่เป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์การพิมพ์ ในเรื่องของการซ่อมบำรุงเครื่องพิมพ์ จากเดิมหากมีจุดไหนชำรุดก็ทำการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด แต่ปัจจุบันนี้ใช้วิธีซื้ออุปกรณ์ในส่วนที่ชำรุดที่สามารถใช้งานได้เทียบเท่ากับชิ้นส่วนเดิมเพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย
ในมุมมองของคุณทรงสิทธิ์ได้เสนออีกหนึ่งวิธีสำหรับการปรับตัวสำหรับผู้พิมพ์ คือ การดึงจุดเด่นและหาจุดแข็งของตนเอง ยกตัวอย่างเช่น การพิมพ์ LED Offset ที่ในระยะแรกๆ หลายบริษัทไม่ต้องการลงทุนในจุดนี้ เนื่องจากเครื่องพิมพ์มีราคาค่อนข้างสูง แต่สุดท้ายเครื่องพิมพ์ใหม่ๆ ที่มีเทคโนโลยีที่มากขึ้น จะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่า (Value Added) ให้กับสิ่งพิมพ์หรือสินค้า รับลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น โดยรับทั้งรายเล็กและรายใหญ่ เพิ่มการดีไซน์ที่หลากหลายขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าหรือผู้บริโภค
ในกระแสโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปเข้าสู่โลกดิจิทัล หลายธุรกิจถูก Disrupt จากเทคโนโลยีไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมการพิมพ์ที่ถูกกระแสโลกสร้างผลเสียให้ไม่น้อยไปกว่าธุรกิจอื่นๆ ผู้คนเริ่มอ่านหนังสือน้อยลง แต่ก็ใช่ว่าจะเลิกอ่าน เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างคุณค่าให้กับหนังสือหรือสิ่งพิมพ์เหล่านั้น เช่น การเพิ่มความพิเศษลงบนปก บรรจุลงในกล่องอย่างดี แต่หากมองว่าอยู่ในช่วงขาลงก็คงไม่ใช่เสียทั้งหมด เนื่องจากอุตสาหกรรมการพิมพ์บรรจุภัณฑ์อยู่ในช่วงเพราะธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโต เนื่องจากทุกวันนี้มีการ Start up ธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงสินค้า OTOP ที่มีการใช้บรรจุภัณฑ์เป็นจำนวนมาก การตลาดที่เปลี่ยนไป คนซื้อออนไลน์มากขึ้น โดยธุรกิจออนไลน์จะสามารถขายสินค้าได้ก็ต้องมีกล่อง เนื่องจากไม่สามารถขายเฉพาะสินค้าได้ เพราะฉะนั้น หากเรามีการปรับตัวเพื่อรองรับธุรกิจเหล่านี้ได้จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด อาจจะด้วยการเพิ่มเติมการให้บริการ และใช้เครื่องพิมพ์ที่ทันสมัยมากขึ้น เป็นการลดใช้แรงงานที่ทุกวันนี้ค่อนข้างที่จะขาดแคลนแรงงาน และช่วยลดต้นทุนในการผลิต เพราะถึงอย่างไรแล้วอุตสาหกรรมการพิมพ์ยังอยู่ในทุกๆ การใช้ชีวิตประจำวัน ไม่มีวันสูญหายไปอย่างแน่นอน