สุพรชัย ผู้ปิดทองหลังพระให้งานพิมพ์
ความสำคัญของงานหลังพิมพ์ แม้ว่างานพิมพ์จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์ แต่จำเป็นต้องมีการพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่สัมพันธ์กับงานหลังพิมพ์ ตั้งแต่เมื่อเริ่มต้นวางแผนการผลิตสิ่งพิมพ์ประเภทนั้นๆ ได้แก่ การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมถูกต้อง
บริษัท สุพรชัย จำกัด ถือว่าเป็นผู้ให้บริการงานหลังงานพิมพ์ ซึ่งได้การยอมรับ ซึ่งก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2518 โดยมีที่ตั้งโรงงานอยู่บริเวณตลาดวโนทัย และได้มีการขยายโรงงาน เพิ่มสายการผลิต ปรับปรุงบริการ และเทคโนโลยีต่างๆ มาตลอด 40 ปี ในด้านงานหลังการพิมพ์ ลูกค้าให้ความไว้วางใจ โดยเน้นการบริการเป็นระบบงานหลังการพิมพ์แบบครบวงจร ที่มั่นใจได้ว่างานจะตรงตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นขนาด หรือรูปแบบที่มีการประยุกต์และปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเทคโนโลยี และยุคสมัย ด้วยงานหลังการพิมพ์แบบครบวงจร ทำให้งานของเรารวดเร็วกว่าที่อื่นๆ พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ แยกกันประจำแต่ละแผนกการผลิตเพื่อควบคุมดูแลงานของลูกค้า ในทุกจุดให้ดีที่สุดทั้งคุณภาพและประสบการณ์ในการผลิตของเรา ทำให้สามารถผลิตงานที่สวยงามโดดเด่น ลดต้นทุน แก้ไขปัญหา หรือ แม้กระทั่งรวดเร็วกว่าโรงพิมพ์ในพื้นที่ คุณจะมั่นใจได้ว่างานที่ออกมาจะสวยงามสะดุดตา ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ในการบริการลูกค้านั้น บจก.สุพรชัยให้บริการอย่างเป็นกันเอง ไม่ว่าจะงานปริมาณน้อยหรืองานปริมาณมาก และให้บริการอย่างครบวงจร หรือเรียกว่า One Stop Service
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสุพรชัยได้รับรางวัลจากการประกวด Thai Print Awards หลากหลายรางวัล รวมถึงรางวัล Best of The Best ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในการประกวด เกณฑ์ในการคัดเลือกชิ้นงานเข้าร่วมประกวด เน้นความคมชัด คุณภาพของงาน และความสะอาดเป็นหลัก ส่งผลให้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจและยืนยันคุณภาพของบริษัทได้เป็นอย่างดี
การเพิ่มมูลค่า (Value Added) ให้กับงานหลังการพิมพ์
การที่จะเพิ่มมูลค่าของงานพิมพ์นั้นมีจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องมีเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การปั้มนูน การปั้มทอง ไดคัท หรือ การเคลือบด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้งานพิมพ์มีความสวยงาม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่มีความสำคัญ การเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงาน ส่งผลให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ ซึ่งต้องมีเทคโนโลยีในการพิมพ์ที่มีคุณภาพและสามารถที่จะสื่อสารข้อความหรืองานพิมพ์ ให้คนทั่วไปสามารถที่จะรู้สึกหรือรับรู้จากผู้รับได้
รูปแบบของการงานหลังการพิมพ์ที่สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงาน
- เคลือบ UV : มี 2 ระบบ คือ ทั้งเคลือบแบบเต็มใบ และเคลือบแบบเว้นจุด โดยไม่มีปัญหาเรื่องความบางของแกรมกระดาษที่เคลือบ รวมถึงความเงาที่จะคงที่ เพราะจะต้องผ่านการตรวจสอบของเครื่องวัดความเงา ให้ได้เกณฑ์มาตรฐานทุกงาน
- เคลือบพลาสติกเงา/ด้าน : การเคลือบฟิล์มเงา, ฟิล์มด้าน, ฟิล์มโฮโลแกรม(ลายรุ้ง), ฟิล์มแมทเทลไลท์ รวมไปถึงความหนาไมคอน ชนิดของฟิล์ม ทางเราก็มีให้เลือกเช่นกัน อีกทั้ง เรื่องของการยึดติด กาวทางเราก็มีทั้ง 2 ระบบ โซเว้นท์ หรือ วอเตอร์เบส
- ขัดเงา : น้ำยาเคลือบแบ่งเป็น 2 ระบบ คือ ระบบโซเว้นท์ และ ระบบวอเตอร์เบส เพื่อความเหมาะสมของชิ้นงานนั้นๆ รวมไปถึงการเคลือบน้ำยากันซึม, วานิชด้าน/เงา
- ปั๊มขาด+ปั๊มนูน : การปั้มนูน 2 มิติ, การปั้มนูน 3 มิติ ความนูนที่ชัดเจน หรือ ความแม่นยำของตำแหน่ง ที่มีมาตรฐานละดับสากล
- ปะข้าง+ปะก้น/ปะประกบ : กล่องทรงเฉียง, ตัวขยายข้างกล่อง หรือ มีลิ้น2ฝั่ง (ซองCD) ปะประกบแบบเต็มใบ ไม่ว่าจะเป็น แบบประกบหน้า-หลัง (3 ชั้น) หรือ จั่วปัง ที่มีความหนาของกระดาษมาก
มุมมองอนาคตของงานพิมพ์ และการปรับตัว
กับประโยคที่ว่า งานพิมพ์กำลังจะตายนั้น อาจจะเน้นไปทางด้านของสิ่งพิมพ์ที่เป็นรูปเล่ม แต่ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ยังสามารถดำเนินต่อไปได้ ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจงานพิมพ์ได้มีการปรับตัวในระดับหนึ่ง โดยการนำงาน Digital เข้ามาใช้ในจำนวนที่มากขึ้น ในอดีตอาจจะมีสุภาษิตที่ว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แม้ว่าจะยังใช้ได้อยู่ แต่ปลาใหญ่จะเป็นปลาที่เชื่องช้า หากเราเป็นปลาใหญ่จะต้องเป็นปลาใหญ่ที่เร็วขึ้น ในการประกอบธุรกิจทุกวันนี้จะต้องอาศัยความรวดเร็ว หากมีช่องทางจะต้องรีบลงมือทำ ทำให้ได้ก่อนคนอื่น เพื่อสร้างแบรนด์ให้กับตนเอง