องค์กรวิจัย Smithers Pira เปิดเผยว่า เครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์กมีประสิทธิภาพสูงสุด

องค์กรวิจัย Smithers Pira เปิดเผยว่า
เครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์กมีประสิทธิภาพสูงสุดในอุตสาหกรรม
และมีต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นต่ำที่สุด

  • เครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์กให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 26 – 52% สูงกว่ากำลังการผลิตจากเครื่องพิมพ์ค่ายอื่นๆ ทั้ง 3 ขนาดแพลตฟอร์ม

  • ต้นทุนการผลิตต่อแผ่นต่ำกว่ามาก เมื่อเทียบเครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์กกับเครื่องพิมพ์จากค่ายอื่นๆ

  • โอกาสการสร้างผลกำไรเมื่อผลิตงานโดยเครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์กจึงสูงกว่าเครื่องพิมพ์รุ่นต่างๆ ของค่ายอื่นๆ

รายงานล่าสุดขององค์กรวิจัยชั้นนำของโลก Smithers Pira (สมิธเธอร์ส ไพร่า) ระบุว่า “ความสามารถในการผลิตที่แท้จริงของเครื่องพิมพ์ระบบออตเซตป้อนแผ่นมือสอง“ เมื่อวิเคราะห์จากจำนวนแผ่นพิมพ์ที่พิมพ์ได้จากเครื่องพิมพ์มือสองเกือบ 450 เครื่องที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปีจากค่ายผู้ผลิตที่แตกต่างกัน 5 บริษัท โดยค่าเฉลี่ยจากทุกขนาดแพลตฟอร์มพบว่าเครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์ก มีความสามารถในการผลิตเหนือกว่าเครื่องพิมพ์จากค่ายอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบจำนวนแผ่นพิมพ์ทั้งหมดที่พิมพ์ได้จากเครื่องพิมพ์ทุกรุ่นทั้งหมดในทุกขนาด เมื่อเปรียบเทียบจำนวนแผ่นพิมพ์ทั้งหมดที่พิมพ์ได้จากเครื่องพิมพ์ทุกรุ่นทั้งหมดในทุกขนาด ในกรณีของเครื่องพิมพ์รุ่น Speedmaster XL 105/106 มีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องพิมพ์ของค่ายอื่นๆ นอกจากนี้แบบจำลองต้นทุนขององค์กร Smithers Pira ยังระบุอีกว่าต้นทุนการผลิตลดลงต่อการพิมพ์ 1,000 แผ่น “เมื่อเราศึกษาข้อมูลออนไลน์ของตลาดเครื่องพิมพ์มือสอง เราเริ่มตระหนักถึงความเป็นจริงที่ว่ากำลังการผลิตที่ได้จากเครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์กนั้นมีประสิทธิผลสูงกว่าเครื่องพิมพ์ยี่ห้ออื่นๆ มากเท่าไร” มร. แอนดี้ เร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ไฮเดลเบิร์กสำนักงานใหญ่กล่าว “การได้รับข้อมูลจากองค์กรที่ได้รับความเชื่อถืออาทิ องค์กร Smithers Pira เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมโดยรวมทั้งหมดและเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ถึงสมรรถนะกำลังการผลิตของเครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์กได้เป็นอย่างดี”

หลักฐานอยู่ในประสิทธิภาพในการผลิตงาน

การศึกษาวิเคราะห์ผลลัพธ์ของเครื่องพิมพ์ขนาด B1, B2 และ B3 โดยเน้นไปที่เครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ 2 ขนาด ได้แก่เครื่องพิมพ์ขนาด B2 (29 นิ้ว) จำนวนแผ่นพิมพ์โดยผลเฉลี่ยต่อปีของเครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์กสูงกว่าเครื่องพิมพ์จากผู้ผลิตรายอื่นๆ ถึง 68.5% และในส่วนของเครื่องพิมพ์ขนาด B1 (40-41 นิ้ว) จำนวนแผ่นพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์ก (รุ่น Speedmaster CD 102 และ Speedmaster XL 105/106) มีค่าเฉลี่ย 36% ซึ่งสูงกว่าเครื่องพิมพ์จากค่ายอื่นในขนาดเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตเฉลี่ยของเครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์กขนาด B1 กับเครื่องพิมพ์จากค่ายอื่นในตลาด พบว่าทั้งเครื่องพิมพ์รุ่น XL 105/106 และรุ่น CD 102 มีต้นทุนในการผลิตต่อ 1,000 แผ่นที่ดีกว่า โดยเครื่องพิมพ์ขนาด B1 รุ่นเริ่มต้นของไฮเดลเบิร์กซึ่งได้แก่เครื่องพิมพ์รุ่น Speedmaster CD 102 มีผลลัพธ์ที่โดดเด่นในแง่ของต้นทุนการผลิตที่ต่ำและ“สเปคเครื่องที่สูงสุด” เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์ค่ายอื่นๆ

p50-51_02

“สิ่งที่ได้จากการศึกษานี้พิสูจน์ได้ว่า การซื้อเครื่องพิมพ์ใหม่จากผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ค่ายอื่นๆ โดยที่มีราคาซื้อที่ถูกกว่า หมายความว่าท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายของต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าในการผลิตงานต่อแผ่น” มร. แอนดี้ เร กล่าว แม้ว่าเครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์กอาจมีราคาที่สูงกว่า 25% แต่เครื่องไฮเดลเบิร์กจะแค่ผลิตงานพิมพ์เพิ่มขึ้นอีกเพียง 8.7% เพื่อปรับความแตกต่างของราคาให้เทียบกับเครื่องยี่ห้ออื่นตามที่ระบุใน PIA White Papers โดยในรายงานนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเครื่องไฮเดลเบิร์กเหนือชั้นและล้ำไปไกลเกินกว่านั้น! ”

ข้อสรุปผลข้อมูลขององค์กร Smithers Pira กล่าวว่า “ประสิทธิภาพในการผลิตที่เพิ่มเติมนี้เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญของเครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์ก การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าโอกาสในการทำกำไรของไฮเดลเบิร์กสูงกว่าเครื่องพิมพ์จากค่ายอื่นในการแข่งขันเป็นอย่างมาก” หมายเหตุ : ไฮเดลเบิร์กได้ติดต่อองค์กร Smithers Pira เพื่อจัดทำรายงานนี้

ท่านสามารถอ่านรายงานขององค์กร Smithers Pira ได้ที่ https://www.smitherspira.com/resources/2017/october/white-paper-sheetfed-litho-presses