2 โรงพิมพ์คว้า PM Export Award 2016

p46-49_02

2 โรงพิมพ์คุณภาพถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ประลึก นำโดยอาจารย์มานิตย์ กมลสุวรรณ บริษัท คอนติเนนตัล บรรจุภัณฑ์ (ไทยแลนด์) จำกัด (ซ้าย) และคุณสืบศักดิ์ คูชัยยานนท์ บริษัท ทีพีเอ็น เฟล็กซ์แพค จำกัด (ด้านขวา)

2 โรงพิมพ์คุณภาพ
คอนติเนนตัล บรรจุภัณฑ์ – ทีพีเอ็น เฟล็กซ์แพค
ประเดิมรับรางวัล PM AWARD 2016

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดให้มีพิธีประกาศเกียรติคุณและมอบโล่รางวัล “ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2559 หรือ PM AWARD 2016 : Prime Minister’s Export Award 2016 โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้มอบให้คุณอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปเป็นประธานในพิธีเปิดและมอบโล่รางวัลแทน เนื่องจากติดภารกิจการแถลงนโยบายครบรอบ 2 ปีของรัฐบาล เมื่อบ่ายวันที่ 15 กันยายน 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ปีนี้มีคัดเลือกผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกดีเด่นเข้ารับรางวัลสูงสุดของรัฐบาล จำนวน 43 บริษัท รวม 50 รางวัล โดยในส่วนสาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ในประเภทรางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม ซึ่งทำการคัดเลือกและมอบรางวัลเป็นปีแรก ปรากฏว่า มีโรงพิมพ์ได้รับ 2 รางวัลคือ บริษัท คอนติเนนตัล บรรจุภัณฑ์(ไทยแลนด์) และบริษัท ทีพีเอ็น เฟล็กซ์แพค จำกัด

ปีนี้นับเป็นปีที่ 25 ปี ที่จัดให้มีการมอบรางวัล PM AWARD 2016 เพื่อเชิดชูเกียรติผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น และถือเป็นการขานรับนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนภาคการส่งออกไทยให้เข้าไปสู่ยุคประเทศไทย 4.0 เดินหน้ายุทธศาสตร์นวัตกรรมนำการผลิต และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตสินค้าและบริการคุณภาพสูงในอาเซียน พร้อมเร่งสร้างและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทย

คุณอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกมีความสำคัญในการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศและเป็นหนึ่งในกลไกพัฒนาเศรษฐกิจไทยในภาคการผลิต ปัจจุบันประเทศไทยกำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือ Value-Based Economy ด้วยโมเดล “ประเทศไทย 4.0” ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทยในเวทีการค้าโลก

นั่นหมายถึง ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้มากขึ้น เพื่อสร้างความแตกต่างและนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมในสินค้าและบริการของตนเอง พร้อมกันนั้นยังต้องให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและบริการเป็นหัวใจสำคัญ

“ประเทศไทยจะเป็นเพียงผู้ผลิตสินค้าคุณภาพเหมือนในอดีตไม่ได้แล้ว ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทยต้องปรับเปลี่ยนตัวเองไปสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรม ทั้งด้านความคิด การออกแบบ การพัฒนาสิ่งใหม่ ซึ่งทั้งหมดจะต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ และโนฮาว มาบูรณาการเข้าด้วยกัน เป็นการเดินหน้าพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตสินค้าและบริการที่มีทั้งคุณภาพและความโดดเด่นเฉพาะตัวในอาเซียน”

และเพื่อตอบสนองแนวทางดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ จึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทย เดินหน้าจัดโครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2559 (Prime Minister’s Export Award 2016 : PM AWARD 2016) ซึ่งโครงการดังกล่าวนับเป็นหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างภาพลักษณ์แก่ประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตและส่งออกสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ ทั้งยังส่งผลสำเร็จในการกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งแก่ภาคการส่งออกของไทยมาตลอด 25 ปี

นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนและให้ความสำคัญแก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกสินค้าและบริการไทยที่มีผลงานดีเด่น มีการริเริ่มและพยายามบุกเบิกตลาดต่างประเทศภายใต้ชื่อทางการค้าของตนเอง และมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเองจนเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดีแก่ผู้ประกอบการที่มีส่วนผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการของประเทศ

โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เดินหน้าพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจส่งออกให้มีความแข็งแกร่ง เติมเต็มความรู้ใหม่ สร้างความเข้าใจในพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจการค้า และสิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจส่งออกนับจากนี้คือ การผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมแก่สินค้าและบริการไทยไปพร้อมๆ กับการสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือของสินค้าและบริการไทยแก่ผู้บริโภคทั่วโลก เพื่อก่อให้เกิดการขยายตัวและความยั่งยืนในภาคการส่งออกของไทยในอนาคต

สำหรับโครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นประจำปี 2559 (Prime Minister’s Export Award 2016 : PM AWARD 2016) ในปีนี้ นับเป็นการครบรอบปีที่ 25 ของการดำเนินโครงการฯ กรมฯ จึงได้มีการปรับเพิ่มประเภทรางวัลเพื่อให้สอดรับกับกระแสและทิศทางการค้าของโลก โดยได้แบ่งรางวัลออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่

  1. รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter)

  2. รางวัลสินค้านวัตกรรมที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม (Best Green Innovation)

  3. รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand)

  4. รางวัลสินค้าที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design)

  5. รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award)

  6. รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกและคุณภาพยอดเยี่ยม (Best OTOP Export Recognition)

  7. รางวัลสินค้าฮาลาล ยอดเยี่ยม (Best Halal)

ซึ่งในปีนี้มีผู้ประกอบการส่งออกให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 100 บริษัท โดยคณะกรรมการและอนุกรรมการคัดเลือก ได้พิจารณาคุณสมบัติของผู้ประกอบการแต่ละรายตามหลักเกณฑ์อย่างเข้มงวด รวมทั้งมีการตั้งมาตรฐานไว้ในระดับเทียบเท่ามาตรฐานสากล โดยกรมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ประกอบธุรกิจส่งออกที่ได้รับรางวัลในปีนี้ จะสามารถช่วยยกระดับภาพลักษณ์ และสร้างชื่อเสียงแก่สินค้าและบริการของประเทศให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสร้างกระแสบริโภคนิยมสินค้าและบริการไทย เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการไทยได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง อีกทั้งจะนำความคิดสร้างสรรค์ และองค์ความรู้ที่มีอยู่ มาช่วยพัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการไทย เพื่อสร้างความได้เปรียบในเวทีการค้าโลก สอดรับกับแนวคิดการก้าวสู่ยุคประเทศไทย 4.0 นั่นเอง

ทั้งนี้ ภายในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ และมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2559 สำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำหนังสือ ‘PM Award’s Directory 2016’ ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมรายชื่อและรายละเอียดของผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นที่ได้รับรางวัลประจำปี 2559 เพื่อใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกไทยทั้งในและต่างประเทศต่อไป

p46-49_11