“เอสซีจี รวมใจสู้ภัยแล้ง”
มอบถังเก็บน้ำแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
ร่วมสร้างต้นแบบจัดการน้ำชุมชน
“เอสซีจี” ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำที่มีคุณค่าต่อการดำรงชีวิต และเข้าใจถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา พร้อมเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย จึงได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงานในการริเริ่มและสนับสนุนโครงการต่างๆ ด้วยการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง มุ่งหวังให้ชุมชนต่างๆ สามารถผ่านพ้นสถานการณ์ภัยแล้งไปได้ พร้อมร่วมส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าเพื่อความยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ประเดิมด้วย “เอสซีจี” ร่วมกับ กองทัพบกและสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สานต่อโครงการ “เอสซีจี รวมใจสู้ภัยแล้ง” สนับสนุนถังเก็บน้ำชุมชน 150 ใบ พร้อมจับมือมูลนิธิ อุทกพัฒน์ฯวางรากฐานการบริหารจัดการน้ำ ชุมชนบ้านโนนเขวา อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น สู่ต้นแบบรับมือภัยแล้งอย่างยั่งยืนและขยายผลสู่ชุมชนใกล้เคียง
คุณอาสา สารสิน กรรมการและประธานคณะกรรมการกิจการสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี มีความห่วงใยพี่น้องในชุมชน ที่ได้ผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง และเล็งเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการมีส่วนร่วมบรรเทาความเดือดร้อน จึงมุ่งมั่นสานต่อโครงการ “เอสซีจี รวมใจสู้ภัยแล้ง” เพื่อร่วมบรรเทาวิกฤติภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆ ด้วยการมอบถังเก็บน้ำขนาด 2,000 ลิตร จำนวน 500 ใบ ในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง โดยมอบให้กับจังหวัดขอนแก่น จำนวน 150 ใบ
ขณะเดียวกัน ยังร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สนับสนุนให้ชุมชนบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาภัยแล้งอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการเพิ่มแหล่งน้ำสำรอง อาทิ ชุมชนบ้านโนนเขวา อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น ขุดคลองเชื่อม ขุดลอกคลอง ซึ่งสามารถบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และขาดแคลนน้ำอุปโภคได้เป็นอย่างดี พร้อมผลักดันให้เป็นชุมชนต้นแบบการบริหารจัดการน้ำชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อ ส่งต่อองค์ความรู้ไปสู่ชุมชนใกล้เคียงต่อไป
ด้าน คุณกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งนับเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินชีวิต สำหรับจังหวัดขอนแก่น จากภาพรวมแหล่งน้ำต่างๆ มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนน้อยแต่ระบายออกมาก ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 16 อำเภอ 105 ตำบล 1,005 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 9.5 ของหมู่บ้านทั้งจังหวัด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการใช้น้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากเอสซีจีในโครงการ “เอสซีจี รวมใจสู้ภัยแล้ง” ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ได้ พร้อมร่วมกันสร้างแนวทางในการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืนต่อไป
พันเอกสมชาย ครรภาฉาย รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 กล่าวว่า กองทัพบกมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยแล้งเป็นอย่างยิ่ง การดูแลช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ถือเป็นนโยบายของกองทัพบก และมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือ กับเอสซีจี ในการสานต่อโครงการ “เอสซีจี รวมใจสู้ภัยแล้ง” พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ อาทิ การให้บริการรถบรรทุกขนส่งน้ำ และการหาข้อมูลพื้นที่ ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง เพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างครอบคลุมทั่วถึง การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ไม่ได้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นวาระของชาติที่ทุกคนต้อง ร่วมมือกัน
ทั้งนี้ เอสซีจี ร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และกองทัพบก ดำเนินโครงการ “เอสซีจี รวมใจสู้ภัยแล้ง” อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558 ด้วยเล็งเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ผู้ประสบภัย โดยวางแนวทางช่วยเหลือชุมชนที่ประสบภัยแล้งแบบเร่งด่วน และสนับสนุนชุมชนดำเนินการลดผลกระทบจากภัยแล้งอย่างยั่งยืน พร้อมวางแนวทางบริหารจัดการน้ำในภาคอุตสาหกรรมและภายโรงงานเพื่อไม่ให้กระทบกับชุมชน